โดดเรียนจนเป็นเรื่อง

สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัยที่เรากำลังเรียนอยู่ในช่วงมหาวิทยาลัยค่ะ เรื่องมันเริ่มจากการที่ว่าเรานั้นเป็นนักศึกษาที่ร้อนเงินมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ทำให้เรานั้นต้องหาอาชีพเสริมเพื่อที่จะเอาเงินไปใช้ในชีวิตประจำวันค่ะและแน่นอนว่ามันก็แลกมากับการที่เรานั้นต้องโดดเรียนเพื่อที่จะไปทำงานนี่แหละค่ะ พอวันต่อมาที่เราไปมหาวิทยาลัยก็ทำให้เราง่วงจนเผลอหลับในคาบเป็นประจำและเราก็โดนอาจารย์ด่าตลอดเลยล่ะค่ะ ซึ่งมันก็แลกมากับการที่ผลการเรียนของเราดิ่งลงเหวไปเลยล่ะค่ะ ( เพื่อน ๆ ของเราบางคนทำหน้าแหย ๆ ใส่เราด้วยแหละค่ะ  และมันก็แลกมากับการที่เรานั้นไม่มีเพื่อนคบด้วยค่ะ )  และแน่นอนว่าปัญหามันเรื่องจากการที่เรานั้นต้องทำงานกลุ่มส่งอาจารย์ค่ะและอย่างที่เราเกริ่นไปตอนต้นว่าเรานั้นไม่มีเพื่อนคบหลังจากการที่เรานั้นไปทำงานพิเศษตลอดเลยล่ะค่ะ ทำให้พอวันต่อมาที่เราไปเรียนนั้นก็โดนอาจารย์ยิงคำถามมาว่าเรามีกลุ่มเพื่อที่จะทำงานส่งอาจารย์รึยัง นั่นทำให้เรานิ่งค้างไปสักพักแล้วกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องเรียนเลยล่ะค่ะ ( ใจเรากำลังหาคนที่จะช่วยเราได้อยู่น่ะค่ะ )  แต่พอผ่านไปประมาณสิบนาทีก็ไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากปากของเราเลยค่ะ นั่นทำให้อาจารย์ชี้ไปตรงหลังห้องแล้วบอกให้เราไปเข้ากลุ่มกับตรงนั้นค่ะ เราก็ต้องจำยอมและเดินไปหลังห้องค่ะและเราก็เห็นว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาเหมือนเด็กเนิร์ดในหนังโป๊ยอดนิยมเลยล่ะค่ะ เราก็ถามไปว่าให้ไปทำงานกลุ่มที่ไหนน่ะค่ะ เขาก็บอกไปว่านัดกันที่บ้านของเราน่ะค่ะ เราก็ไม่มีปัญหาอะไรและจนมาถึงวันที่นัดทำงานค่ะแต่ประเด็นคือเราดันมีงานด่วนและเลือกที่จะทำงานแทนงานกลุ่มค่ะ…

ทริคสัมภาษณ์งานจากเพื่อน

สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัยที่เรากำลังหางานทำหลังจากที่เรียนจบใหม่ ๆ เลยล่ะค่ะ ต้องเกริ่นก่อนว่าเราเป็นเด็กที่มาจากบ้านที่มีฐานะธรรมดา ๆ ค่ะ ไม่ได้มีเส้นสายอะไรเลยน่ะค่ะ ซึ่งเราก็พึ่งมารู้จากตอนที่เรียนจบว่าเส้นสายสำคัญมาก ๆ สำหรับการหางานทำในอนาคตน่ะค่ะ เพราะเพื่อน ๆ ของเราหลาย ๆ คนพากันมีงานทำเพราะมีคนฝากเข้าไปทำงานน่ะค่ะซึ่งมันต่างจากเราที่เคว้งคว้างขั้นสุดจนไม่เป็นอันทำอะไรเลยน่ะค่ะ ซึมก็ซึม พอโดนพ่อกับแม่บอกว่ามีที่ทำงานรึยัง เราก็ไม่กล้าบอกว่ายังไม่มีน่ะค่ะ จริง ๆ คือเราไม่อยากให้เขากังวลไปกับเราด้วยน่ะค่ะก็เลยโกหกไปว่าเรามีที่ทำงานแล้วน่ะค่ะแล้วก็บอกไปว่ามันเป็นบริษัทใหญ่และเงินเดือนดีด้วยค่ะซึ่งนั่นก็ทำให้คุณพ่อและคุณแม่ของเราต่างยินดีไปกับเราด้วยน่ะค่ะ ส่วนที่เหลือคือเราต้องหางานทำในบริษัทใหญ่ ๆ อย่างที่ปากบอกคุณพ่อกับคุณแม่ไปค่ะแต่ก็ต้องยอมรับนะคะว่าเศรษฐกิจแบบนี้คงไม่มีใครอยากจ้างพนักงานในบริษัทหรอกค่ะ แต่ด้วยความที่เราไม่อยากยอมแพ้กับอะไรแบบนี้ก็เลยดั้นด้นหางานทำต่อไปน่ะค่ะ จนกระทั่งเหมือนสวรรค์เปิดทางเพราะมีบริษัทหนึ่งที่เรายื่นไปนั้นเรียกเราไปสัมภาษณ์งานด้วยค่ะ ด้วยความที่เรานั้นอยากได้งานนี้มาก ๆ เลยทักไปถามเพื่อนที่ทำงานในบริษัทนี้ดูค่ะ…

แฟนดันรู้ความลับ

สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสมัยที่เรายังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่สี่ค่ะ ต้องเท้าความก่อนว่าเรามีแฟนอยู่คนหนึ่งค่ะซึ่งอายุไล่เลี่ยกัน คือเขาโตกว่าเราน่ะค่ะ ซึ่งพวกเราได้รู้จักกันตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยน่ะค่ะคือพี่เขาเป็นเพื่อนกับพี่รหัสของเราซึ่งเราเคยไปขอคำใบ้เพิ่มเต็มจากเขาน่ะค่ะ พอคุยกันไปคุยกันมาก็เริ่มถูกใจกันและพี่เขาก็เป็นคนจีบเราก่อนด้วยค่ะ ตอนนั้นเราโดนเพื่อน ๆ ในคณะล้อหนักมากค่ะ ไปไหนด้วยกันคือโดนแซวตลอดค่ะ จนบางครั้งเรากับพี่เขาต้องแยกกันไปมามหาวิทยาลัยเลยล่ะค่ะ ซึ่งพอพี่เขาเรียนจบพวกเราก็พัฒนาความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดเลยน่ะค่ะ แต่ประเด็นคือเรามีความลับที่ปิดบังพี่เขาอยู่น่ะค่ะ ซึ่งความลับของเราก็คือการที่เราชอบแต่งตัวแนวคอสเพลย์คล้าย ๆ กับนางเอกหนังavน่ะค่ะซึ่งแน่นอนว่าพี่เขาไม่เคยรู้เลยค่ะเพราะเราซ่อนเสื้อผ้าคอสเพลย์ไว้แบบแนบเนียนสุด ๆ เลยค่ะ ซึ่งเรื่องมันก็เริ่มจากการที่เรานั้นไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยตามปกติค่ะ แต่พอเรากลับมาที่คอนโดที่เราซื้อไว้อยู่กับพี่เขาก็เห็นว่าตู้เสื้อผ้าของเราเหมือนจะโดนค้นน่ะค่ะ แต่พอเราไปถามพี่เขาก็ถูกบอกมาว่าสงสัยเราค้นเองแล้วลืมรึเปล่าน่ะค่ะ นั่นทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาว่าอาจจะเป็นฝีมือของเราก็ได้น่ะค่ะ แต่พอวันต่อมาเราก็เช็กตู้เสื้อผ้าของเราดี ๆ และก็ถ่ายรูปเล็กเอาไว้ด้วยน่ะค่ะเผื่อว่าเราอาจจะลืมเองค่ะ หลังจากนั้นเราก็ไปเรียนตามปกติเลยนะคะ แต่พอเรากลับมาก็เห็นว่าตู้เสื้อผ้าของเราโดนค้นอีกแล้วน่ะค่ะ นั่นทำให้เรารีบไปหาแฟนของเราแล้วบอกว่าเรานั้นเช็กแล้วดี ๆ ว่าไม่ได้ค้นมาน่ะค่ะ…